Thai Tropical Plant.com
แหล่งรวมพันธุ์ไม้ประดับเขตร้อนของไทย
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ชวนชม ราชินีพันดอก ADENIUM RCN
ภาพโดย:บ้านสวนชวนชม เตยแดง |
ราชินีพันดอก
หากเอ่ยชื่อนี้ทุกคนทั้งในและนอกวงการชวนชม คงอดไม่ได้ที่จะจินตนาการตามชื่อ ว่าชวนชมต้นนี้คงจะดอกดกจริงๆ จึงได้ชื่อว่าราชินีพันดอก คือมีดอกเป็นพันๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ชวนชมต้นนี้ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อย่อว่า RCN. ก็คือย่อมาจาก RA CHI NEE นั่นเองครับ
ราชินีพันดอกจัดอยู่ในกลุ่มชวนชมตระกูลยักษ์
ภาษาบ้านๆ เรียกยักษ์ซาอุ พวกฝรั่งเรียก ARABICUM
คือเรียกตาม สายพันทางวิทยาศาตร์ ส่วนตัวผมนั้นขออณุญาติไม่เน้นภาษาทางวิชาการนะครับ
เพาะว่ามีบทความที่มีความรู้แบบวิชาการอยู่แล้วใน BLOG นี้ ส่วนตรงนี้จะขอใช้ภาษาพูดปนภาษาเขียน
เหตุผลก็เพื่อต้องการให้คุณผู้อ่านเข้าใจและรู้เรื่อง
ตามแบบภาษาเราชาวชวนชมเมืองไทยนั่นเอง
ราชินีพันดอกในบ้านเรา
นิยมเล่นกัน 2 อย่างด้วยกัน
1.ราชินีพันดอกเพาะเมล็ด
2.ราชินีพันดอกกิ่งตอน
ราชินีพันดอก หากเอ่ยชื่อนี้ทุกคนทั้งในและนอกวงการชวนชม คงอดไม่ได้ที่จะจินตนาการตามชื่อ
ว่าชวนชมต้นนี้คงจะดอกดกจริงๆ จึงได้ชื่อว่าราชินีพันดอก คือมีดอกเป็นพันๆ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ชวนชมต้นนี้ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนชาวต่างชาติรู้จักกันในชื่อย่อว่า
RCN. ก็คือย่อมาจาก RA CHI NEE
นั่นเองครับ
ราชินีพันดอกจัดอยู่ในกลุ่มชวนชมตระกูลยักษ์
ภาษาบ้านๆ เรียกยักษ์ซาอุ พวกฝรั่งเรียก ARABICUM
คือเรียกตาม สายพันทางวิทยาศาตร์ ส่วนตัวผมนั้นขออณุญาติไม่เน้นภาษาทางวิชาการนะครับ
เพาะว่ามีบทความที่มีความรู้แบบวิชาการอยู่แล้วใน BLOG นี้ ส่วนตรงนี้จะขอใช้ภาษาพูดปนภาษาเขียน
เหตุผลก็เพื่อต้องการให้คุณผู้อ่านเข้าใจและรู้เรื่อง
ตามแบบภาษาเราชาวชวนชมเมืองไทยนั่นเอง
ราชินีพันดอกในบ้านเรา
นิยมเล่นกัน 2 อย่างด้วยกัน
1.ราชินีพันดอกเพาะเมล็ด
2.ราชินีพันดอกกิ่งตอน
แล้วมันเป็นอย่างไร ทำไมต้องเพาะเมล็ด
ทำไมต้องกิ่งตอน พออ่านมาถึงตรงนี้เริ่มสงสัย
เอาอันแรกก่อน ข้อดีของการเพาะด้วยเมล็ด
คือชวนชมทุกสายพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะมีหัวที่อ้วนใหญ่เหมือนหัวอะไรสักอย่างที่ดูแล้วอวบๆ
ป่องๆ อ้วนๆ ให้ความรู้สึก แข็งแรง เพิ่มพูน มั่นคงไม่สั่นคลอนและปลอดภัย
สรุปก็คือการเพาะเมล็ดคุณจะได้ ชวนชมที่มีหัวอ้วนป่อง ส่วนการตอนกิ่งคุณจะได้
ทรงต้นที่คล้ายต้นไม้ยืนต้น ทรงสูงมีมิติ เหมือนต้นไม้ใหญ่หรือคล้ายๆ ต้นบอนไซ
ส่วนกิ่งและดอกยังคงดกเหมือน แต่สิ่งที่คุณจะได้จากกิ่งตอนก็คือ
เนื้อแท้ของกิ่งไม้ที่ถูกตัดจากต้นแม่ที่ต่างประเทศ และส่งเข้ามาในเมืองไทย
น่าสนใจมั้ยครับ เรื่องนี้ผมฟังมาจากคนแก่ๆแล้วโคราช เล่าว่ามีลูกชายชาวบ้านไปทำงานซาอุ
งานที่ทำคือต้องออกพื้นที่ลงภาคสนาม เดินท่อนน้ำมัน โยธา ประมาณนั้น
แล้วเจอเจ้าต้นเราชินีพันดอกเข้า (แต่ตอนนั้นมันยังไม่มีชื่อ)
ธรรมชาติของคนไทย ส่วนใหญ่รักต้นไม้ บวกกับความอยากได้ด้วย
ก็เลยตัดกิ่งชวนชมมาหนึ่งกิ่ง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตัวเองยังไม่กลับเมืองไทยแล้วจะส่งมายังไง
ถ้าจะเดินเข้าไปที่ไปรษณีส่งมาก็คงติดคุกที่ซาอุหัวโตแน่นอนเพาะเรื่องพันธุ์ไม้ระหว่างประเทศ
เป็นสิ่งต้องห้ามอยู่แล้ว แต่เรื่องแบบนี้คนไทยสามารถอยู่แล้ว
ก็เลยซื้อทีวีที่ซาอุ แล้วส่งทีวีกลับมาบ้าน แล้วเขียนจดหมายถึงแม่ให้ขันน็อตเปิดกล่องทีวีออก
ข้างในมีกิ่งชวนชมอยู่ 1 กิ่ง
ในจดหมายบอกว่าให้นำไปปลูกไว้มันเป็นไม้จากเมืองนอกสำคัญมาก
แม่จึงนำไปปลูกไว้ข้างๆ บ้าน
เวลาผ่านไปชวนชมจากซาอุก็เติมโตขึ้นเป็นไม้ไหญ่ขนาดเท่าต้นมะละกอรุ่นๆ
ถึงขนาดนี้แล้วลูกชายก็ยังไม่กลับบ้านได้แต่ส่งเงินกลับบ้านทุกๆ เดือน
แล้ววันนั้นก็มาถึงครอบครัวทางเมืองไทยมีเงินเพิ่มขึ้นถึงเวลาขยับขยายบ้าน
คือต้องการปลูกบ้านใหม่ เดือดร้อนถึงเจ้าชวนชมข้างบ้าน โดยไม่ต้องปรึกษา
คนทางบ้านใช้รถไถปรับพื้นที่พร้อมดันชวนชมต้นดังกล่าวออกด้วย
ด้วยความเสียดายทางบ้านจึงตัดกิ่งไว้ 3 กิ่ง ใส่กระถางปลูกเอาไว้ ได้ขายไปหมดทั้ง
3 กิ่ง สองกิ่งเน่าตายไปในเวลาต่อมา ส่วนกิ่งสุดท้ายถูกขายมาแถวๆ โคราชและนั้นคือจุดเริ่มต้นของชวนชมที่ชื่อราชินีพันดอก....เอาไว้ต่อโอกาสหน้าครับว่างจะเข้ามาต่อ.
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ชวนชมไทย Thaiadeniums.
Adenium Obesum หรือ
ฮอลแลนด์ ไม้สีโขดสวยที่มีความหลากหลายในสีของดอก
สะสมอาหารทางรากทำจนกลายเป็นโขดใหญ่อ้วน นิยมนำมาเป็นต้นตอในการเสียบยอดสีต่างๆ
ให้ความหลากหลายของสีดอกที่สวยงาม

Thai Socotranum
ไทยโซโคทรานั่ม เป็นชวนชมอีกชนิดหนึ่งที่มีรูปลักษณ์สวยงาม
ลักษณะทรงต้นที่แปลกตา กิ่งก้านใบและลำต้นคล้ายบอนไซ
เป็นไม้สะสมขนาดกลางที่ได้รับความนิยมของนักสะสมต้นไม้ทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างมากจนในปัจจุบันความต้องการในตลาดยังสูงพอสมควร
ลักษณะของสายพันไทยโซโคทรานั่มนี้จะให้เมล็ดค่อนข้างยาก
เมล็ดที่สมบูรณ์จะมีขนาดใหญ่มาก หรือจะเรียกว่าใหญ่ที่สุดในบรรดาชวนชมเลยก็ว่าได้
ไทยโซโคทรานั่มที่พบในประเทศไทยได้ถูกนำเข้ามาเมื่อหลายสิบปีก่อน
สายพันธุ์ดั้งเดิมและโดดเด่นสวยงามได้ตั้งชื่อตามสถานที่ปลูกเลี้ยงได้แก่
เพชรบ้านนา บางคล้า เขาหินซ้อน
ต่อมาเมื่อเพาะเลี้ยงเป็นเวลานานเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์ให้ลูกไม้ที่ออกมามีลักษะโดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันออกไป
Adenium Arabicum
หรือ ยักษ์ซาอุดิอาระเบีย
คนไทยมักรู้จักกันในชื่อนี้ซะส่วนใหญ่ คงเป็นเพาะเรียกตามที่มาจากสายพันธุ์
คือจากประเทศ ซาอุดิอาระเบีย และมีขนาดลำต้นที่ใหญ่โต จึงเรียกนำหน้าว่ายักษ์ นำเข้ามาโดยคนไทยที่ไปทำงานยังต่างประเทศเมื่อหลายสิบปีก่อน
แต่สำหรับในกลุ่มนักสะสมจะมีการจำแนกสายพันธุ์จากยักษ์ซาอุฯออกมาตามลักษณะของดอกใบและลำต้นที่มีความแตกต่างอีก
บางส่วนตั้งชื่อตามสถานที่ปลูกเลี้ยง บางส่วนตั้งชื่อโดยผู้เป็นเจ้าของหรือผู้เพาะเลี้ยง
ในเว็ปไซด์ขอยกมาแค่ 7 ชื่อหรือ 7 ลักษณะ ที่แตกต่างกันในกลุ่มของ
ยักษ์ซาอุฯ เนื่องจากมีเป็นที่รู้จักในประเทศไทยพอสมควร
ราชินีพันดอก A1
ภาพโดย:บ้านสวนชวนชม เตยแดง |
*ลักษณะใบ จะสังเกตได้ง่ายกว่าไม้ชนิดอื่นๆ
ใบจะมนเป็นมัน (ถ้าเลือดเด่นของใบจะออกแดงเล็กน้อย)
*ลักษณะดอก ดอกจะดก เพาะเมล็ดขึ้นกระถางดำขนาด 4 นิ้ว ก็ออกดอกแล้ว
ลักษณะดอกจะมีสีชมพูขาวนิดหน่อย เป็นไม้ที่ออกดอกพร้อมกัน ดอกดก (เป็นที่มาของชื่อ
ราชินีพันดอก)
*ลักษณะกิ่งลำต้นและสีผิว ลักษณะกิ่งตอน กิ่งชำจากต้นแม่
ผิวจะสวยออกลายนวล ทั้งนี้แล้วแต่ท้องถิ่นที่เลี้ยงว่า ใช้น้ำ (รดน้ำ) อะไร
หรือปุ๋ยที่ใช้มีลักษณะอย่างไร ลูกไม้เพาะเมล็ดแรกเริ่มก็จะเขียวพออยู่นานก็จะนวลเอง
*ลักษณะฝัก ฝักจะเล็กกว่าไม้ทุกต้น
ในกรณีที่อยู่กับกิ่งต้นแม่ถ้าเสียบตอไทยจะให้ฝักสมบูรณ์กว่า
หนึ่งฝักจะให้เมล็ดประมาณ 80-100 เมล็ด
*ลักษณะเด่น ถ้าออกดอกแล้วยอดจะแตกออกเป็น 3 กิ่ง
ถ้านำกิ้งจากต้นแม่เข้าเสียบตอไทยติดใหม่ใบจะด่างและจะหายไปเอง ให้ฝักเร็ว ดอกดก
*ลักษณะด้อย เพาะเมล็ดยาก เมล็ดมีขนาดเล็ก
(ถ้าจะให้ได้ผลเมื่อเก็บเมล็ดมาผึ่งให้แห้งแล้วเพาะได้เลย จะงอกดีกว่าเก็บนาน)
วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ตลาดชวนชม จตุจักร
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อน ผมชื่อสุเมธ
โพธิ์ศรีทอง เป็นพ่อค้าขายต้นไม้มีแผงอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร (JATUJAK MARKET) โครงการ 17. ปากซอย9. เปิดขายประจำในวันพุธ - พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา ประมาณ 6
โมงเช้าจนเกือบถึง 6 โมง เย็น.
ต้นไม้ที่ผมขายมีลักษณะ ลำต้น ราก กิ่ง หัวอวบอ้วนอมน้ำ ที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ..ชวนชม อันดับแรกนี้จะนำคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับชวนชม ที่มีอยู่ในเมืองไทยให้พอเข้าใจ ว่ามีที่มาที่ไปจากไหนอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันก่อนจะได้คุยกันรู้เรื่อง ชวนชมยุคแรกในเมืองไทยนัันมันเป็นอย่างไร มีกี่ประสายพันธุ์กันแน่ ทำไมเยอะแยะมากมาย ไม่รู้จะเล่นอะไรดี เป็นปัญหาหนักอกพอสมควร โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น...
วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556
ถิ่นกำเหนิดและที่มา
![]() |
ชวนชมในเกาะโซโคต้า ประเทศเยเมน |
คนไทยรู้จักชวนชมมามากกว่า 70 ปี
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดนำเข้ามา มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไม้นำเข้าจากอินโดนีเซียหรือชวา
เพราะแต่เดิมเคยเรียกว่า "ลั่นทมยะวา" ชื่อลั่นทม อาจจะเรียกตามความเข้าใจของคนในสมัยนั้น
ที่คิดว่าชวนชมอยู่สกุลของลั่นทมเพราะมีดอกคล้ายกัน ส่วนคำว่ายะวาเพี้ยนจากชื่อเมืองชวา
ตามความเป็นจริงแล้วชวนชมก็ไม่ใช่พื้นเมืองของชวา แต่อาจจะนำเข้ามาจากฮอลแลนด์ เพราะครั้งนั้นชวาถูกปกครองโดยชาวดัชอยู่
ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มของนักสะสมรวบรวมพันธุ์ไม้ทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะถิ่นเดิมชวนชมอยู่ในอาฟริกา
และต่อมาพระนางเธอลักษมีลาวัณ ในรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนชื่อโดยตามความเหมาะสม
มีความรู้สึกที่ดีเป็น "ชวนชม" ต้องตามลักษณะของต้นไม้ในสมัยเดียวกันนั้นเองปัจจุบันนักพฤกษศาสตร์ได้จัดให้ชวนชมอยู่ในสกุล
adenium Roem & Schult (Mock Azalea, Desert Rose, Impala Lily, Kudu
Lily, Sabi Star) ในวงศ์ Apocynaceae โดยพืชในวงศ์นี้มีลักษณะเด่นที่มักจะมียางขุ่นขาวและมักจะมีพิษ
เกสรเพศผู้และเมียถูกปกปิดอยู่ลึกมองเห็นไม่ชัดเจนเช่นดอกไม้อื่น ๆ ไม้ในวงศ์นี้ที่เห็นรู้จักกันทั่วไปมีทั้งเป็นไม้พื้นเมืองและนำเข้าได้แก่
ยี่โถ ลั่นทม บานบุรี รำเพย พุด พังพวย โมก หิรัญญิการ์ หนามแดง ตีนเป็ดทะเล
สัตบรรณ ยางน่อง ฯลฯ ชวนชมเป็นพืชอายุหลายปี ทนแล้ง
มีลักษณะเด่นที่เป็นไม้เนื้ออ่อนอวบน้ำ เก็บกักตุนอาหารไว้ที่ลำต้น โขด (cordex,
ส่วนต่อของลำต้นกับรากที่ขยายใหญ่ขึ้น) และราก ดอกมีห้ากลีบ สีชมพูอมแดง
ส่วนกลางดอกจะเห็นระยางค์ 5 เส้นยื่นยาวชัดเจนเป็นส่วนปลายของอับเรณูอยู่ภายในกรวยดอกไว้ล่อแมลง
ที่ส่วนฐานกลีบดอกเชื่อมติดรวมเป็นกรวย ฐานกรวยเป็นที่ตั้งของรังไข่ 1 คู่ ถ้าได้รับการผสมเกสรสมบูรณ์จะเจริญเป็นฝักยาวคล้ายเขากวางอิมพาลา ภายในฝักมีเมล็ดเรียงเป็นแถวจำนวนเป็นสิบจนถึงร่วมร้อย
เมล็ดทรงกระบอกเรียวยาวขนาดรูปร่าง สี ใกล้เคียงเมล็ดข้าวเปลือกที่มีตอนปลายตัดทั้งสองด้านพร้อมมีพู่กระจุกขนประดับช่วยพยุงเมล็ดให้ปลิวไปตามลมได้ไกล
ๆ
แหล่งกำเนิดดั้งเดิมในธรรมชาติของพืชในสกุลชวนชมมีสองแหล่งใหญ่คือ
แหล่งที่หนึ่ง พบตามแนวฝั่งตะวันออกของทวีปอาฟริกาได้แก่ชนิด

2) A. multiflorum Klotzsch ได้แก่
แดงเอหรือแดงอาฟฯ พบที่โมแซมบิคบางครั้งจึงพบว่าจัดชนิดนี้เป็นชนิดย่อยของ obesum
เพราะโครงสร้างลำต้นทั่วไปคล้ายชวนชมพื้นเมือง
เจริญเติบโตเร็วแข็งแรง ลักษณะเด่นที่แยกได้ชัดคือภายในกรวยดอกมีเส้นนำทางน้ำหวานอยู่
15 เส้น (3เส้น/กลีบดอก)
สีพื้นดอกเป็นขาวขอบแดงเข้ม ขอบกลีบบิดเล็กน้อย ระยางค์ของอับเรณูยาวเลยส่วนกรวยดอก
ใบแตกต่างมากเป็นสีเขียวอมเทาเป็นมัน ส่วนปลายใบมนขยายกว้างและมักเว้าลึกที่กึ่งกลาง
มักทิ้งใบหมดหลังหนาวจัดแล้วจึงให้ดอกบานเต็มต้น ชวนชมชนิดนี้คาดว่านำมาในประเทศไทยใกล้เคียงกันกับชนิดแรกข้างบน
หากแต่ไม่เกิดความนิยมเท่า อาจจะเป็นเพราะจัดเป็นพันธุ์หนักมีดอกยาว จะบานพร้อมกันมากเป็นบางฤดูเท่านั้น
3) A. swazicum Stapf (Impala Lily หรือกลุ่มช็อคกิ้งพิ้ง) พบที่สวาซิแลนด์ โมแซมบิค
ทรานซ์วาล ของอาฟริกาใต้ เป็นไม้ที่มีลักษณะเป็นพุ่มแตกกิ่งแขนงมาก
โขดไม่ขยายอยู่ใต้ดิน เก็บอาหารที่รากใบเรียวยาวไม่เป็นระเบียบ มีสีเขียวอ่อน มักพับเข้าหากันที่กึ่งกลางใบ
มีขนละเอียดทั้งด้านบนและล่าง ดอกสีขาว ชมพูจนถึงม่วง เป็นสีทึบแน่นเสมอกันทั่วกลีบจนถึงกรวย
ซึ่งไม่มีเส้นนำทางน้ำหวาน กลีบดอกกว้างเกยกัน
ระยางค์ของอับเรณูสั้นมากซ่อนหลยอยู่ส่วนลึกในกรวย โดยมากดอกบานมากช่วงฤดูร้อน
แต่บางสายพันธุ์ให้ดอกได้ตลอดทั้งปี เป็นไม้นำเข้ามาในประเทศไทยทั้งเมล็ดและกิ่งตอนมากมายหลายสายพันธุ์ช่วงสิบปีนี้
รู้จักกันในชื่อช็อคกิ้งพิ้ง รจนา ทับทิม เกล็ดไพริน เพ็ญนภา ขาวหิมะ และม่วงฮาวาย
เป็นต้น

4) A. bomianum Schinz ได้แก่กลุ่มดอกผักบุ้ง
ใบกระท้อน ใบฝรั่ง พบที่นามิเบียและแองโกล่า ลักษณะเด่นของชนิดนี้คือ ลำต้นตั้งตรง
โขดมีขนาดเล็ก ใบมีขนละเอียดปกคลุม ขนาดกว้างใหญ่มาก ปลายใบกว้างมาก ดอกทั้งกลีบดอกและกรวยเป็นสีชมพูทึบแน่นเป็นเนื้อเสมอเดียวกัน
ลักษณะกลีบค่อนข้างกลมกลีบเกยกัน ระยางค์ของอับเรณูสั้นมากซ่อนหลบอยู่ส่วนลึกของกรวย
ในต่างประเทศมีดอกบานช่วงสั้นเพียงช่วง 2-3 อาทิตย์ในฤดูร้อน
ได้นำเข้ามาในประเทศไทยช่วง 5-6 ปีที่แล้ว เป็นไม้ที่นำเมล็ดและกิ่งตอนเข้ามาจากแหล่งสะสมพันธุ์ไม้ของสหรัฐอเมริกา
และที่ฮาไว รู้จักกันในชื่อ เจ้าเงาะ พระสังข์ ดอกสีโอวัลติน เชอร์รี่พิ้งค์
ม่วงอุษา ม่วงฮาวาย และหนึ่งฤทัย เป็นต้น
5) A. oleifolium Stapf ได้แก่กลุ่มใบเงิน
พบที่บอทสวาน่า นามิเบีย ทรานซ์วาล เบคชัวนาแลนด์ และอาฟริกาเหนือและใต้ เป็นไม้พุ่มเตี้ยแตกกิ่งมากใบแคบเขียอ่อน
บางครั้งเป็นสีเขียวอมเทาเป็นเงินวาว ใบมักจะแบนแคบรูปใบพาย มีขนละเอียดปกคลุมมาก
เส้นแขนงใบเห็นไม่ชัดเจน การจัดวางใบไม่เป็นระเบียบ มีโขดใหญ่
มักมีสีคล้ายดินลูกรัง ชอบฝังอยู่ใต้ดิน บางต้นอาจหนักเกือบ 30 กิโลกรัม ดอกมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง กลีบดอกค่อนข้างแข็งหนากว่าชนิดอื่น ๆ
สีชมพูกลีบแคบไม่เกยกัน กรวยสีเหลืองทอง เส้นนำทางน้ำหวานพาดยาวจากกรวยถึงบนกลีบดอกชัดเจน
ระยางค์อับเรณูยาวประมาณปากกรวยดอก อายุฝักกว่าจะแก่ใช้เวลานานเกือบหนึ่งปี เมล็ดมีขนาดใหญ่มาก
ไม่พบว่ามีการติดฝักในบ้านเรา สายพันธุ์จึงไม่มีการพัฒนาในประเทศไทยนำเมล็ดเข้ามาปลูกกันไม่มากนัก
รู้จักกันในชื่อไม้นำเข้า บลูฮาวาย ยักษ์ใบเงิน



ชวนชมที่พบตามธรรมชาติแหล่งใหญ่แห่งที่สองนั้นอยู่แถบคาบสมุทรอาหรับมีสองชนิดคือ








ชวนชมที่พบในประเทศไทยปัจจุบันจัดได้ว่ามีการรวบรวมไว้ครบทุกชนิด
และมีความสวยงามหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะบ้านเรามีแหล่งน้ำ ดิน อากาศพอเหมาะแก่การขยายพันธุ์เจริญเติบโตประกอบกับความรู้ความสามารถของเกษตรกรเรียนรู้ได้เร็ว
รู้จักดัดแปลงปรับปรุงอยู่เสมอ ทำให้บ้านเรามีต้นและดอกชวนชมที่ถือว่าอยู่ระดับแนวหน้า
มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาศึกษาและทำธุรกิจมากมาย
ความหลากหลายของชวนชมไม่ได้จบลงที่ชนิดต่าง
ๆ แต่เพราะชวนชมต่างชนิดกันนั้น หากได้ใช้ความพยายามช่วยผสมเกสรแล้วจะผสมข้ามชนิดได้
ทำให้เกิดพันธุ์ลูกผสมมากมาย ขยายพันธุ์ได้ง่าย
สามารถนำมาเสียบเข้ากับตอที่มีอายุมากรูปทรงดีแล้ว ก็จะได้ไม้ดอกพุ่มตามความนิยมที่สวยงามมาก
สำหรับลักษณะดอกจะคัดพันธุ์กันตามความนิยมในเรื่องของสีสด สีเข้ม สีแปลกจากสีพื้น
ๆ ขนาด รูปทรงดอก ช่วงฤดูการบานนาน บานทน และความดก หากจะจำแนกสีในกลุ่มพื้นเมืองของลูกผสมฮอลแลนด์แล้ว
จะมีดังนี้
กลุ่มสีแดง ได้แก่ แดงสะท้อนแสง แดงกรรณิการ์
แดงไต้หวัน ดวงตะวัน อำนวยโชค มณีนิล เพชรมณี และแดงลูกัส เป็นต้น สีแดงอมแสด
ได้แก่ ส้มลายไทย แดงรุ่งโรจน์ แสดปัญจรัตน์ ฯลฯ สีแดงค่อนทางชมพู ได้แก่ มุกมณี
สาวสวนแตง รัตนมงคล ศรีโสธร นิ่มนวล ฯลฯ ที่มีสีแดงเข้มผิวคล้ายกำมะหยี่ ได้แก่
แสงรัศมี และแดงอังเปา ที่เป็นไม้ล่าสุด
สำหรับแดงที่มีกลีบดอกและใบหนาขนาดใหญ่พิเศษคือ แดงนับอนันท์



กลุ่มสีชมพู ได้แก่ ช่อทิพย์ ช่อผกา พวงผกา พวงชมพู
เพชรชมพู ดาวชมพู ชมพูแวร์ซาย ชมพูเพชรรัตน์ ฟ้าประทาน แป๊ะยิ้ม บัวแก้ว บัวขวัญ
หนึ่งเดียว ชมพูรจิตแก้ว ระฆังแก้ว และกัญจมาภรณ์ ฯลฯ ในกลุ่มนี้บางสายพันธุ์ให้สีเหลื่อมล้ำหลายสีหรือพวกสีแฟนซี
จากขาวสำหรับดอกบานวันแรก วันต่อมาเป็นชมพูอ่อน เมื่อบานนานหลายวันจะเป็นชมพูเข้ม บ้างก็เปลี่ยนสีในดอกเดียวกัน
หรือในช่อเดียวกันจึงมีความสวยแตกต่างจากสีพื้นเรียบธรรมดา สีดอกประเภทนี้ได้แก่ เพชรสายรุ้ง
สุชาวรี ลีลาวลี พุดตาลสามสี ชมพูรจิตแก้ว แววมยุรา สามกษัตริย์ และล่าสุดคือ
ชมพูสำราญ บางสายพันธุ์ให้สีชมพูที่มีโทนม่วงเข้ามาได้แก่ ขาวขอบม่วง ม่วงมาดาม
หรือม่วงแคทรียา ม่วงจำปาสัก ม่วงเม็ดมะปราง ม่วงดอกมะเขือ ม่วงกรรณิการ์ ม่วงตวงทอง
ม่วงมะเหมี่ยว เป็นต้น



กลุ่มสีขาว ได้แก่ ขาวประ ขาวมะลิ ขาวสไปร์ ขาวอรุณี
ขาวคีรีบูร ขาวมงกุฏเพชร ขาวประภาพรรณ ขาววิรัตน์ ขาวมรกต เพชรน้ำเอก ขาวลิลี่ไวท์
ขาวศรีอโยธยา ขาวบางใหญ่ ขาวมีทรัพย์ และขาวมรดกโลก ล้วนแต่เป็นลูกไม้ที่เกิดในประเทศไทย
ซึ่งได้จัดว่าเป็นกลุ่มขาวที่ดีที่สุดในโลก

หากจะจำแนกในความแปลกของดอก เช่น
กลุ่มดอกหอม จะมีหลายสายพันธุ์ที่หอมมากเป็นพิเศษหอมรุนแรง ตั้งแต่สายจนบ่ายกลิ่นคล้ายกุหลาบปนน้ำหอมสุภาพบุรุษ
ได้แก่ แดงหอม แก้วดอกหอม ขาวหอม ขาวมะลิคริส เตียนดิออร์ และหอมเพชรรัตน์ เป็นต้น
หรือในบางชนิด มีสีด่างลายขาวและแดงเป็นไม้นำเข้าจากไต้หวันชื่อดอกลายสายน้ำตก บางชนิดมีลายด่างเป็นขอบชั้นได้แก่
เพชรสายรุ้ง เพชรเมืองกาญจน์ ดอกบางชนิดมีกลีบซ้อน เป็นสองชั้นได้แก่
เพชรบ้านสร้าง หรือบางชนิดก็อาจมีจำนวนกลีบมากน้อยแตกต่างกันจาก 3 ถึง 8 กลีบก็มี
นอกจากกลุ่มสายพันธุ์ฮอลแลนด์ที่นิยมมากคือ พวกพันธุ์ลูกผสมที่เกิดจากการผสมข้ามชนิดระหว่างพันธุ์อาหรับกับฮอลแลนด์
หรือกับกลุ่มสวาซิคัม มีที่เป็นไม้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาได้แก่ กลุ่มแดงมงคล คริมสันสตาร์
(แดงปักษ์ใต้) คาร์ริบโซ แดงหาดใหญ่ แดงเชียงใหม่ แดงแม่โจ้ แอสช่า และกมลทิพย์
เป็นต้น แต่เมื่อนำไปปลูกนานเข้าเกิดติดฝักโดยธรรมชาติในประเทศไทยได้รุ่นลูกของกลุ่มนี้ที่มีลักษณะที่ดีพันธุ์ล่าสุดได้แก่
พรทิพย์ ประกายดาว และแดงสิริ เป็นต้น
![]() |

![]() |
ความหลากหลายของใบชวนชมมีมากสี จากเขียวใสคล้ายสีตองอ่อน
เขียวเข้ม เขียวอมเทา เงิน เขียวอมแดง (ได้แก่นิลมหากาฬ แดงเสนาะ) ขอบแดง สีขาวนวล
ใบลายด่างขาว (variegata) ก็เป็นที่นิยมเล่นเป็นไม้ใบได้ ซึ่งมีข้อได้เปรียบพืชอื่น ๆ ที่ยังสวยที่ดอกและโขดเป็นบอนไซได้
สายพันธุ์ประเภทด่างที่เกิดในประเทศไทยจากสายพันธุ์ฮอลแลนด์ได้แก่ ด่างชาตรี ด่างวิฑูรณ์
ด่างปรีชา ด่างจิ๋ว ด่างรจิตแก้ว ด่างนับอนันท์ และด่างแก้วสารพัดนึก นอกจากนี้ได้เกิดการด่างกลายในชนิดสวาซิคัม
ได้แก่ ช็อคกิ้งพิ้งด่าง และด่างในชนิดยักษ์ใบยี่โถอีกด้วย
สำหรับลำต้นชวนชมนอกจากมีลายด่างลายแล้ว บางครั้งลูกกล้าที่เพาะใหม่ก็มีการกลายพันธุ์มีลำต้นเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใสก็มี
หรือบางยอดเปลี่ยนเป็นแผงหรือกำแพงเกิดเป็นตาดอกมาก จึงเกิดเป็นช่อดอกขนาดใหญ่ มีจำนวนหลายสิบดอก
เมื่อเพาะกล้าชวนชมจำนวนมากหลายพันต้น มักจะพบลูกหลงกลายพันธุ์แปลกออกมาเป็นพันธุ์แคระ
ลำต้นย่อขนาดลงมากใบเล็กกว่าหนึ่งตารางเซนติเมตร หรือได้ลักษณะเป็นใบบิดแข็งหนามัน
คล้ายพลาสติกให้ดอกที่สวยด้วยจึงนิยมนำมาปลูกเล่นเป็นบอนไซที่สวยงาม

ขอขอบคุณ
รศ.ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์
ผู้เอื้อเฟื้อบทความ
http://www.ku.ac.th/e-magazine/march46/agri/flower.html
ชื่อวิทยาศาสตร์: Adenium
ชื่อวงศ์: Apocynaceae
ชื่อสามัญ: Desert rose, Mock Azalea, Pinkbignonia, Impala lily
ชื่อพื้นเมือง: ลั่นทมแดง ลั่นทมยะวา
อ้างอิงโดย : รศ.ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์
ชื่อวงศ์: Apocynaceae
ชื่อสามัญ: Desert rose, Mock Azalea, Pinkbignonia, Impala lily
ชื่อพื้นเมือง: ลั่นทมแดง ลั่นทมยะวา
อ้างอิงโดย : รศ.ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)